ทำไมกินน้อยแต่อ้วน
“ทานไม่เยอะ แต่ไม่รู้จักทาน” ผลลัพธ์ ต่างจาก “ทานเยอะ แต่เลือกทานนะคะ” นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ ทำไมกินน้อยแต่อ้วน ลองอ่านความต่างระหว่าง A กับ B ดูนะคะ
สาวอวบ A
รูปร่างอวบ ปรับการกินไปสู่หนทางผิดๆ ด้วยการ กินน้อยมาก เข้าใจผิดว่าต้องลดอาหารลงเยอะๆ ร่างกายถึงจะขับไขมันออก
ตอนเย็นกินแต่ยำๆ ส้มตำๆๆ หารู้มั้ยว่ามื้ออาหารเหล่านี้ ไม่มีไขมันก็จริง แต่อาหารรสจัด ยิ่งทำให้ต่อมน้ำลายยิ่งทำงานหนัก น้ำลายหลั่งออกมาเยอะ ยิ่งหิวหนักเข้าไปใหญ่ แถมแต่ละมื้อยังไม่มีโปรตีนจากเนื้อสัตว์อย่างพอเหมาะด้วย
พอกินแค่นั้น…ท้องก็ย่อมหิวอัดผลไม้ตามเยอะๆ จะได้หายทรมานจากการหิว ตบท้ายด้วยดื่มน้ำตามมากๆ หวังว่ามันจะดีขึ้น ส่งผลให้ออกกำลังกายอย่างไม่มีประสิทธิภาพ เพราะ แม่คุณก็กลัวแป้งด้วย (คาร์โบไฮเดรตจากแป้งสร้างพลังงาน) บางทีก้ออกกำลังได้เหยาะแหยะเพราะมึนหัว(เพราะร่างกายขาดสารอาหาร)
อยากกินอะไรก็ระแวงทุกอย่าง พลิกฉลาก นับแคลอรี่ ว้ายอันนี้แคลอรี่เยอะ ไม่กินๆ กลายเป็นโรคกลัวอาหารอีก
ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะกินให้น้อยลง เพราะคิดว่า กินน้อย ก็คือ ร่างกายจะดึงพลังงานมาใช้เยอะ
แต่ในความเป็นจริงของร่างกายมนุษย์ คือยิ่งกินน้อย ร่างกายจะปรับเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน (starving mode ) จากที่เคย burn ได้ 1200 cal ต่อวัน พอมาอดๆอยากๆ กินน้อยเช่นนี้ ตัวเลขการเบิร์นจึงลดลงไป 800-1000 cal ยิ่งกินน้อยก็ยิ่งอ้วนขึ่้นทุกวัน
ชีวิตไม่มีความสุข ประสาท เสีย > ชั่งน้ำหนัก > เครียด > ลงเอยด้วยการ กินๆๆๆๆ >ส่องกระจก ฉันอ้วนอีกแล้ว >เครียด > เข้าสู่วงจรเดิม ลดน้ำหนักใหม่ (คิดว่าสงสัยฉันยังกินน้อยไม่พอ คิดไม่ได้ ติดอยู่ในวงจรอุบาทว์ )
สาวอวบ B
คนนี้เริ่มต้นด้วย การศึกษาโภชนาการอย่างจริงจัง เธอเรียนรู้ว่า ถ้าอยากผอม ต้องทานแป้ง และโปรตีนอย่างพอเหมาะ แต่ต้องเลือกชนิด เธอจึงเริ่มต้นทาน ข้าวโอ๊ต ข้าวซ้อมมือแทนข้าวขาว และก๋วยเตี๋ยว
ทานโปรตีนอย่างเหมาะสม ทั้งโปรตีนจากไข่สักสองฟองต่อวัน ทานเนื้ออกไก่ไม่ติดมัน ทานหมูไม่ติดมันบ้าง อัดเนื้อเข้าไปเยอะๆ และทานผักเยอะๆ
เลือกปรุงอาหารเอง เพราะจะได้ไม่ทำอาหารรสจัดมาก ส่วนผลไม้ทานตามจำนวนพอเหมาะ
เธอรู้สึกมีความสุขดี เพราะได้สารอาหารอย่างเต็มที่ ไม่ต้องเอาผลไม้มายัดให้หายหิว เหมือน สาวอวบ A
ของว่างแก้เหงาปากก็เลือกอีก ถั่วอัลมอนต์จืดๆ โยเกิร์ตไร้น้ำตาล จะกินขนม ของว่างทั้งที ต้องมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย
เธอโฟกัสไปที่ การควบคุมน้ำตาล และเกลือในอาหารแต่ละอย่างที่หยิบเข้าปาก มากกว่ามานั่งนับแคลอรี่ไร้สาระ
สำหรับไขมัน เธอก็ไม่กลัวที่จะทาน เพราะรู้ว่าร่างกายมนุษย์ยังต้องการไขมันบ้าง เธอจึงศึกษาว่า จะรับไขมันดีเข้าร่างกายได้อย่างไรดี เธอจึงไปซื้อน้ำมันมะกอกอย่างดี มาทำน้ำสลัด กินคู่กับโปรตีนจากเนื้อสัตว์บ้างตอนเย็น
เพราะว่าเธอได้รับคาร์โบไฮเดรตอย่างเพียงพอในช่วงเช้า และกลางวัน ตอนเย็นๆจึงมีแรงออกกำลังกายได้เต็มที่ ยิ่งการออกกำลังกายมีประสิทธิภาพ ความแข็งแกร่งก็พอกพูนขึ้นทุกวัน
วันหนึ่งเธอได้ศึกษาหาข้อมูลเพิ่ม และค้นพบว่า ออกกำลังด้วยคาร์ดิโอ้ อย่างเดียวไม่พอแน่ๆ เบิร์นไขมันและผอมลงได้จริง แต่ไม่ได้ช่วยให้ไขมันบางจุดหายย้วย
เธอจึงเริ่มต้นเล่นเวทบ้าง และเพิ่มความเข็มข้นขึ้นเรื่อยๆ พอมีกล้ามเนื้อก็แทบไม่ต้องทำอะไร อยู่เฉยๆ พลังงานก็เบิร์นเองของมัน ไม่เหมือนตอนวิ่ง ถ้าหยุดวิ่งวันไหนร่างกายก็ไม่ได้เบิร์น ทำให้เธอผอมลงเรื่อยๆ ผิวก็เฟิร์ม ไม่ย้วยเหมือนสาวอวบ A
นอกจากการกินที่ถูกต้องแล้ว เธอจึงสามารถกำหนดวันตามใจปากได้ ทานไอศกรีม พิซ่าของโปรด โดยไม่ซีเรียส สักอาทิตย์ละครั้ง วันต่อๆมาๆ ก็กลับไปกินดีๆ และออกกำลังกายหนักเหมือนเดิม
น้ำหนักอาจจะไม่ลดมากนัก แต่เธอก็ไม่ซีเรียส เพราะมวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ่้น แต่ผอมลงอย่างเห็นได้ชัด จนเพื่อนๆทักว่า เฮ้ย … ทำไมผอมลงแต่ไม่โทรม ดูดีสดใสสุดๆ กินเยอะขนาดนี้ทำไมยังผอมเอาๆ
ช่วยบอกทีว่า A หรือ B มีแนวโน้มว่าจะผอม และแข็งแรงมากกว่ากัน
ปล. A คือเราในอดีตนะ ตอนนี้เราเป็น B แล้ว
จากสมาชิกพันทิป คุณ uka04
อ่านเพิ่มเติม ทำไมกินน้อยแล้วยังอ้วนอยู่