จะลดน้ำหนัก ทำไมต้องฝึกกล้ามเนื้อ
จริงๆแล้วการฝึกกล้ามเนื้อมันจำเป็นสำหรับทุกคน ทุกเพศ และทุกวัยอยู่แล้ว ขนาดคนป่วยนอนเตียง หมอยังให้ยกแข้งยกขา ยกก้น ตามสภาพร่างกายเลย ดังนั้นสำหรับคนทีไม่ได้ป่วยจะแค่เดินไปเดินมา ยกนั่นนี่นิดๆหน่อยๆ มันไม่พอค่ะ ยิ่งคนที่จะลดน้ำหนักด้วยแล้ว ยิ่งจำเป็นต้องฝึกกล้ามเนื้อที่สุด ทำไมต้องฝึกกล้ามเนื้อ บทความนี้จะอธิบายแบบบ้านๆนะ ไม่ยกงานวิจงวิจัยอะไรให้ปวดหัว
เราไม่ได้มาพูดถึงพวกที่ผอมอยู่แล้ว ที่พอฝึกกล้ามเนื้อปุ๊บ โหย…ฟิต กระชับ เด้ง เป๊ะ แบบนั้นคือเขามีต้นทุนดีอยู่แล้ว ช่างเขา อย่าไปอิจฉาค่ะ
แต่เราพูดถึงคนที่อ้วน จะอ้วนมาก อ้วนน้อย หรือแค่อวบๆ หรือไม่อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม อะไรก็แล้วแต่ (คงรู้กันเองนะว่าระดับไหนน่ะค่ะ) กลุ่มนี้มักจะเข้าใจว่าการฝึกกล้ามเนื้อมันจะยิ่งทำให้ดูอ้วน มันเป็นการฝึกสำหรับพวกบ้ากล้าม ของชั้นขอให้ผอมลงซักหน่อยก็ดีใจจะตายอยู่แล้ว
ทำไมต้องฝึกกล้ามเนื้อ
1. เพื่อสร้างความแข็งแรง
“โอ๊ย…ดูหุ่นชั้นสิ บึกบึนขนาดนี้ แล้วก็ไม่ค่อยได้ป่วยอะไรนี่ วันๆทำงานอย่างกับเครื่องจักร ไม่ต้องฝึกกล้ามเนื้อก็แข็งแรงอยู่แล้ว”
ฝึกกล้ามเนื้อเพื่อสร้างความแข็งแรง ไม่ใช่แค่กล้ามเนื้อนะคะ กระดูก และเส้นเอ็น ก็แข็งแรงด้วยค่ะ ไอ้ที่ทำงานหนัก รู้สึกมีแรง แข็งแรงอยู่แล้ว มันเป็นแค่เปลือกค่ะ
ลองพิสูจน์ง่ายๆนะคะ ว่าเหนื่อยง่ายมั้ย ลองไปแข่งกับคนที่ฝึกกล้ามเนื้อเป็นประจำก็ได้ เขาชิลๆ แต่เราลิ้นห้อยเลยมั้ย นี่แหละคือความแข็งแรงจากภายในค่ะ
“แล้วแข็งแรงจากภายในมันจะลดน้ำหนักได้ยังไง?”
งั้นลองคิดดูนะ ว่าถ้าคนที่แข็งแรงเขาจะทำอะไรได้นาน energy พุ่งพล่านมาก เหมือนพวกไฮเปอร์ แปลว่าเขามีโอกาสจะใช้พลังงงานได้มากกว่าถูกมั้ยคะ
แต่คนที่ไม่แข็งแรงแป๊บเดียวก็เหนื่อย แล้วก็พัก แล้วก็คิดในใจว่า วันนี้ใช้พลังงานแล้วไปตั้งเยอะจนเหนื่อยแล้ว ทั้งๆที่ยังทำไปได้ไม่เท่าไหร่เอง แล้วก็จะนั่ง ไม่ก็นอน ไม่ก็กิน โอกาสได้ใช้พลังงานนั้นน้อยกว่ามากค่ะ (คือเรารู้สึกเหนื่อย เลยนึกว่าใช้พลังงานมาก แต่จริงๆไม่มากเลย)
สรุปคือ ฝึกกล้ามเนื้อเพื่อให้ภายในแข็งแรง มีแรงทำกิจกรรมได้ตลอดทั้งวัน ไม่เหนื่อยง่ายๆ
2. เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ
“ไม่นะ…ชั้นไม่ได้อยากกล้ามขึ้น แค่นี้ก็ดูอ้วนจะแย่แล้ว”
รู้หรือไม่คะ หลังจากอายุ 20 ขึ้นไปแล้ว กล้ามเนื้อจะเริ่มหายไปทีละนิด ซ้ำร้ายกว่านั้นคือ ยิ่งอ้วน กล้ามเนื้อก็ยิ่งหด และอย่าตกใจนะที่จะบอกว่า การลดน้ำหนักก็ยิ่งทำให้กล้ามเนื้อลดลงด้วยเช่นกัน มันเป็นธรรมชาติค่ะ น้ำหนักที่ลดไปได้ก็คือน้ำหนักของน้ำ,กล้ามเนื้อและไขมัน
ดังนั้นที่บอกว่าเพื่อสร้างกล้ามเนื้อก็คือ สร้างขึ้นมาชดเชยกับที่มันหายไปนั่นเองค่ะ เราไม่มีทางรู้หรอกว่ากล้ามเนื้อมันจะหายไปมากแค่ไหน แล้วต้องเติมมากแค่ไหน(แต่ส่วนใหญ่จะเติมไม่มีทางทันหรอกค่ะ) แต่ที่ทำได้คือฝึกฝนค่ะ ถ้าไม่ฝึกแม้ว่าคุณจะลดน้ำหนักได้ตั้งเยอะ เดี๋ยวมันก็กลับขึ้นมาได้ง่ายๆแน่นอนค่ะ
3. เพื่อให้มีระบบเผาผลาญดี
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวกินชาเร่งเผาผลาญ หรือกินยาอะไรที่มันเร่งให้เผาผลาญเอาก็ได้”
ชาสมุนไพรหรืออาหารเสริมจริงๆมันก็ดีค่ะ (แต่ยานี่ไม่แนะนำค่ะ) แต่คุณจะกินชาได้ทั้งวันทั้งคืนมั้ยคะ กินได้ทุกวันและตลอดไปหรอคะ เหมือนถ้าคุณว่ายน้ำไม่เป็น คุณจะใส่ห่วงยางว่ายน้ำตลอดเลยมั้ยคะ ฝึกว่ายด้วยตัวเองไปด้วยไม่ดีกว่าหรอ แล้วใช้ห่วงยางเป็นตัวช่วยฝึกก็ได้
คนที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง เขาแค่นั่งหายใจทิ้งเฉยๆ เขาก็เผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าคนกล้ามเนื้อน้อยแต่ไขมันเยอะ แม้ว่าจะเดินทั้งวันก็ตาม
ปริมาณกล้ามเนื้อ เป็นคีย์เวิร์ดสำคัญที่จะทำให้มีระบบเผาผลาญที่ดี เราคงไม่สามารถวิ่งหรือออกกำลังกายได้ทั้งวัน หรือทุกวันอยู่แล้วจริงมั้ยคะ แต่ถ้าเรามีกล้ามเนื้อมาก นั่งก็จะเหมือนเดิน เดินก็จะเหมือนวิ่ง (เว่อร์ไปมั้ย?)
4. เพื่อออกกำลังกายได้นานขึ้น,ไม่บาดเจ็บง่าย
“โถ่…ตกลงว่าก็ต้องออกกำลังกายอยู่ดีใช่มั้ยเนี่ยะ แถมยังต้องออกกำลังกายนานขึ้นอีก แบบนี้มันจะต่างยังไงกับแค่ออกกำลังกายปกติเฉยๆก็ได้ ไม่ต้องฝึกกล้ามเนื้อให้เมื่อยก็ได้มั๊ง”
ถ้าคุณเคยวิ่ง แล้วรู้สึกว่าแต่ละนาทีมันนานเหลื๊อเกิ๊น เมื่อไหร่จะหมดเวลาซักที ลองฝึกกล้ามเนื้อก่อนวิ่งดูสิ ท่าLunge ท่าsquat ยกเวท ฯลฯ คุณจะวิ่งได้แบบไม่รู้สึกตัวเลยว่าไปบ้าพลังมาจากไหน
ถ้าได้ฝึกกล้ามเนื้อเป็นประจำ ไม่ว่าจะออกกำลังกายแบบไหน มันก็จะรู้สึกว่าอยากต่อเวลา ยังได้อยู่ ยังไหวอยู่ อยากไปต่อ ลองดูค่ะ ไม่ลองไม่รู้
และอีกอย่างค่ะ ถ้าคุณเคยออกกำลังกายครั้งแรกแล้ววันต่อมาเดี้ยงเลย เท้าเคล็ด หลังเดาะ นั่นแหละค่ะ การฝึกกล้ามเนื้อมันช่วยได้
จริงๆแล้วประโยชน์ของการฝึกกล้ามเนื้อมันมากกว่านี้เยอะค่ะ แต่อยากให้เข้าใจทั้งสี่ข้อนี้ เพื่อจะได้ไม่เข้าใจผิดว่า การฝึกกล้ามเนื้อมันสำหรับคนบ้ากล้าม หรือพวกสปอร์ตเกิร์ลที่ต้องฟิตเป๊ะอะไรประมาณนั้นน่ะค่ะ
ส่วนถ้าจะเริ่มฝึกกล้ามเนื้อกันแล้ว ก็ต้องศึกษาท่าทาง และหลักการที่ถูกต้องอีกทีนะคะ ไม่ใช่คิดอยากจะยกหนักๆก็ยกเลย หรือพาสไปท่ายากๆ แบบนี้ไม่ได้นะคะ
บทความโดย ezygodiet.com