10 สาเหตุที่ทำให้ รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา
แปลกมั้ย บางคนทำงานนั่งโต๊ะในห้องแอร์แต่ก็ยัง รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา บางคนเหนื่อยกายระหว่างเดินทาง แล้วความเหนื่อยกาย การทำงานหนัก มันทำให้รู้สึกเหนื่อยได้ทั้งวันเลยหรือ เราลองมาดูกันว่าอะไรบ้างที่ทำให้เรา รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา จะได้แก้ได้ตรงจุดกัน
1. ไม่ออกกำลังกาย
ถ้าเคยได้ยินว่า “ถ้าไม่ยอมฝึกสมองบ้าง เดี๋ยวสมองจะฝ่อนะ” ในทำนองเดียวกัน ร่างกายถ้าไม่มีการฝึกใช้กล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อก็ลีบ ไขมันก็เข้ามาพอกได้ง่าย รถยนต์ต้องเผาน้ำมันได้เป็นพลังงานให้รถวิ่งได้ การออกกำลังกายก็ทำให้มีการเผาผลาญ ผลผลิตที่ได้ก็คือ พลังงาน เมื่อมีพลังงานเราก็จะมีแรง เมื่อมีแรงเราก็จะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ฉะนั้น ความรู้สึกเหนื่อย เพลีย ล้าจากการทำงานก็จะไม่มี มันเป็นแค่ความขี้เกียจตอนแรกเท่านั้นเอง แต่พอได้ดีดตัวไปออกกำลังกายได้เมื่อไหร่ ก็ไม่อยากหยุดออกกำลังกายเลยด้วยซ้ำ
2. ไม่ดื่มน้ำให้มากพอ
พูดไปก็อาจมีคนเถียงว่า กินน้ำไปเดี๋ยวก็ปัสสาวะออกไปอยู่ดี ขี้เกียจเข้าห้องน้ำบ่อยๆ แต่อย่าลืมว่าสมองเป็นตัวสั่งให้เราเหนื่อย ทำไมสมองถึงทำอย่างนั้น ก็เพราะว่ามันขาดออกซิเจน ทำไมถึงขาดออกซิเจน ก็เพราะเลือดที่คอยขนออกซิเจนขาดน้ำหล่อลื่น ไหลไปเลี้ยงสมองไม่ทันการ เหมือนคลองเน่าๆ นิ่งสนิท แต่ถ้ามีน้ำใหม่มา น้ำเก่าไป ไหลเวียนหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ ก็กลายเป็นคลองใสๆได้เหมือนกัน ดังนั้น เหนื่อยปุ๊บดื่มน้ำปั๊บรับรองสมองแล่น
3. ธาตุเหล็กไม่พอ
เพราะธาตุเหล็ก เป็นเหมือนอวัยวะของเม็ดเลือดแดง ที่ช่วยขนส่งออกซิเจน อาหารที่มีธาตุเหล็กมากได้แก่ ตับ เนื้อสัตว์ ไข่แดง ผักใบเขียว ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วแดง ถั่วเหลือง แต่อย่าเข้าใจผิดว่าต้องกินทีละเยอะๆล่ะ เพราะแร่ธาตุไม่ได้สะสม เหลือแล้วก็ทิ้ง ดังนั้น ใช้วิธีกินประจำ แต่กินทีละน้อยๆ กระจายๆมื้อ ไม่ใช่กินครั้งละเยอะๆแล้วเลิก
4. ทำหลายๆอย่างพร้อมๆกัน
ความคิดมักไปไวกว่าร่างกายเสมอ บางครั้งเราก็กลายเป็นจอมกิจกรรม โอเว่อร์แอ็คทีฟ ไอ้นู่นก็อยากทำ ไอ้นี่ก็อยากทำ ถ้าทำแล้วมีความสุขพักแล้วก็หายเหนื่อย แต่ถ้าทำแล้วหวังผลเลิศทุกอย่าง หรือทำไม่ทันซักอย่าง ในที่สุดความเหนื่อยก็ไม่ได้เกิดเพราะร่างกายเหนื่อย แต่เป็นเพราะความคิดเหนื่อย ทำสิ่งที่เร่งด่วน และจำเป็นที่สุดก่อน เรียงลำดับความสำคัญให้เป็น จัดการให้เสร็จเป็นอย่างๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ ปล่อยวางเรื่องที่ทำไม่ทันบ้าง
5. กังวลล่วงหน้า
การวางแผนล่วงหน้า กับความกังวลล่วงหน้า ต่างกันโดยสิ้นเชิง การวางแผนเป็นการรับมืออย่างมีเหตุผล สมองจะปลอดโปร่ง แต่ความกังวลเป็นความคิดฟุ้งซ่าน ที่มีแต่จะทำให้สมองเต็มไปด้วยขยะ ในเมื่อเราได้ทำในสิ่งที่สุดความสามารถแล้ว ผลลัพธ์ก็เป็นแค่สิ่งที่ต้องยอมรับ แล้วก็ทำให้เต็มที่ต่อๆไป แบ่งเวลาให้สมองได้มีการจัดระเบียบด้วยการปล่อยสมองให้โล่ง ไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น วิธีหนึ่งที่ทำให้สมองโล่งด้วย ร่างกายใช้พลังงานด้วย ก็คือการออกกำลังกาย เพราะร่างกายจะพยายามปิดระบบที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะสมอง เพื่อให้มีแรงออกกำลังกายนั่นเอง เราจะรู้สึกได้ว่าหลังออกกำลังกาย จะมีความสุข สมองปลอดโปร่ง
6. ไม่ทานหลังตื่นนอนทันที
ทันทีที่ลืมตาตื่น การหายใจจะมากขึ้น หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น กล้ามเนื้อใช้งานมากขึ้น อวัยวะต่างๆเริ่มทำงานมากขึ้น เหมือนกริ่งโรงงานเตือนว่าได้เวลาเข้างานแล้ว แต่เจ้าของโรงงานมาประกาศว่า วันนี้จะลดค่าแรงเพราะออร์เดอร์ลดลง สาวโรงงานต่างพากันห่อเหี่ยว ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร แต่พอเจ้าของโรงงานประกาศว่า มีงานด่วนวันนี้จะจ่ายค่าแรงให้เป็นสองเท่า จ่ายล่วงหน้าด้วย สาวโรงงานกลับมามีชีวิตชีวากระฉับกระเฉงทันที ร่างกายเราก็เหมือนกัน ไม่ให้อาหาร มันจะอยากทำงานได้ยังไง
7. กินแต่อาหารขยะ
คนเราไม่ได้ต้องการแต่เงิน ยังต้องการความรัก ความชื่นชม ยกย่อง ความสบายใจ เวลา ฯลฯ ร่างกายเราก็ไม่ได้ต้องการแค่แป้งกับน้ำตาล แต่ยังต้องการวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน และไขมันดีๆด้วย ได้กินของอร่อยหวานๆ มันๆ ได้ทั้งวัน แต่เสียสุขภาพ ก็เหมือนมีเงินแต่ไม่มีเวลา ไม่มีความรัก ไม่มีความสุข อาหารขยะกินได้เพื่อความสนุกปาก แต่ต้องไม่ลืมอาหารสุขภาพเพื่อความสุขที่แท้จริงด้วย
8. ปฏิเสธไม่เป็น
พยายามเป็นคนดี มันก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้ามันทำให้เราเดือดร้อน ก็ไม่ดี เพื่อนชวนกิน ชวนเที่ยว วานให้ทำงานแทน งานบวช งานแต่ง ฯลฯ ฝึกปฏิเสธด้วยการไม่หวังให้ใครมาช่วยกลับ ไม่ยอมให้ใครมาเลี้ยง เพราะหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เราปฏิเสธไม่ได้เพราะ หวังว่าถ้าเรามีปัญหาจะได้พึ่งพาคนอื่นได้ ครั้งหน้าเขาจะได้มางานเราบ้าง ฯลฯ แต่ถ้าทุกงานเป็นงานที่เราต้องการทำจริงๆ ก็ต้องไม่ทำให้ร่างกายเราเดือดร้อน
9. ไม่มีระเบียบ
คนที่ใจเย็น มักเป็นคนที่มีระเบียบ แต่ไม่ใช่เจ้าระเบียบ สังเกตุจากโต๊ะทำงานใครโล่งๆ จัดข้าวของน่าหยิบจับ ต้องการอะไรหยิบได้ถูกจุด ขนาดแค่โต๊ะทำงานยังมีระเบียบ แสดงให้เห็นถึงนิสัยที่น่าจะมีระเบียบในชีวิตประจำวันด้วย เช่น กินเป็นเวลา รู้จักเลือกกิน จัดเวลาออกกำลังกาย มีเวลาเหลือพักผ่อนได้ แม้จะมีงานเท่าๆกับคนอื่น
10. ไม่มีวันหยุด
คนที่ทำงานซ้ำๆเดิมๆ ทุกวันไม่มีวันหยุด ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย จะรู้สึกห่อเหี่ยว แม้งานจะไม่ได้หนักหนา แต่ก็เหมือนไม่มีเรี่ยวแรง หาวันหยุดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ไปเที่ยว นอกจากจะทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยแล้ว ยังได้ไอเดียใหม่ๆ ถึงจะเหนื่อยจากการเที่ยว พักแป๊บเดียวก็มีพลังเพิ่มได้หลายเท่าตัวเลย.
เขียนโดย ezygodiet.com
แฟนหนูเป็นทุกอย่างเลย ช่วงนี้เลยให้พักผ่อนกับทานผัก ผลไม้เยอะๆ และหนูได้หาสมุนไพรไทย ช้างสารให้ทานด้วย ก็ดีอยู่นะคะ