10 วิธี ออกกำลังกายอย่างคุ้มค่า
อุตส่าห์มาออกกำลังกายทั้งที เรามา ออกกำลังกายอย่างคุ้มค่า กับเวลาที่เสียไปกันดีกว่าค่ะ อย่าให้มันสูญเปล่า เสียเวลาโดยใช่เหตุกับสถานการณ์บางอย่างต่อไปนี้เลย
1. เหวี่ยงดัมเบล
การยกดัมเบลด้วยการใช้แรงเหวี่ยง นอกจากจะอาจทำให้อันตรายแล้ว ยังไม่คุ้มค่าด้วย เพราะเราไปพึ่งพาแรงเหวี่ยงมากกว่าการยกด้วยแรงตัวเอง
ออกกำลังกายอย่างคุ้มค่า : ด้วยการ ใช้แรงทั้งหมดของเราเอง ยกอย่างช้าๆให้เหมือนดูภาพสโลว์โมชั่น แล้วค้างไว้ 1 วินาที กลับเข้าท่าเดิมอย่างช้าๆ มั่นคง ไม่ต้องรีบ ยิ่งรีบ ยิ่งไม่ได้ใช้แรง ทำให้เสียเวลาเปล่า
2. ขาไปแต่แขนไม่ไปด้วย
ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง เครื่องจักรยานเดินอากาศ(Elliptical) ล้วนต้องใช้สมาธิไปกับการใช้ขาก็จริง แต่ทำไมเราถึงปล่อยโอกาสที่จะใช้แขนร่วมด้วย
ออกกำลังกายอย่างคุ้มค่าด้วยการ เดินไปยกแขนไป วิ่งไปชกลมไป ปั่นจักรยานเดินอากาศไปมือก็จับที่จับเลื่อนไปมาตามเท้า วิธีนี้ก็จะทำให้ได้ออกกำลังกายส่วนแขนไปด้วยโดยไม่เสียเวลาเพิ่มเลย
3. ยืดเส้นแบบรีบๆ
การยืดเหยียดเป็นการทำให้เส้นเอ็น กล้ามเนื้อได้ปรับสภาพ แต่คนส่วนใหญ่มักทำแบบรีบๆ แค่ 2-3 วินาที เหมือนเป็นการกระตุกเส้นซะมากกว่ายืดเส้น
ออกกำลังกายอย่างคุ้มค่าด้วยการ เปลี่ยนท่าอย่างช้าๆ เหมือนโยคะ รำไทเก๊ก แล้วยืดค้างไว้ 20 – 30 วินาที เช่น ยกแขนขึ้นเอียงไปด้านข้าง แอ่นไปด้านหลัง หรือการเหยียดขาต่างๆ อย่ากระตุก อย่าเด้ง แต่ให้ค้าง รับรองว่าแค่ค้างไว้ก็ทำให้เหนื่อยเหงื่อออกได้ง่ายๆเลยจะบอกให้
4. นั่งเฉยๆเพื่อรอเครื่องเล่น
เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่สุด สำหรับคนที่ยึดติดกับเครื่องเล่นใดเครื่องเล่นหนึ่ง พอเครื่องนั้นไม่ว่าง ก็นั่งเล่นมือถือ นั่งรอจนกว่ามันจะว่าง ทั้งๆที่กว่าเครื่องจะว่างก็ผ่านไป 30-40 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่เราสามารถออกกำลังกายจบไปแล้วด้วยซ้ำ
ออกกำลังกายอย่างคุ้มค่าด้วยการ ใช้เครื่องเล่นไหนก็ได้ที่ว่างอยู่ ถ้าไม่มีเครื่องไหนว่างเลย ก็ออกกำลังกายโดยไม่ต้องใช้เครื่องเล่นก็ได้ เช่น วิ่งอยู่กับที่ วิ่งขึ้น-ลงบันได 1 ขั้น กระโดดตบ ยกดัมเบล บอดี้เวท หรือถ้านึกอะไรไม่ออกก็ไปวิ่งข้างนอกก็ได้ อย่ารอให้เสียเวลาเลย
5. ยืดเหยียดระหว่างการออกกำลังกาย
การยืดเหยียดเหมาะกับตอนเริ่มต้น กับตอนจบเท่านั้น ถ้าไปยืดเหยียดระหว่างที่กำลังออกกำลังกาย จะทำให้การเผาผลาญลดลงอย่างน่าเสียดายที่สุด เช่น วิ่งๆอยู่แล้วเหนื่อยเลยหยุดหมุนเอวเหยียดขาแล้วก็ไปวิ่งต่อ แบบนี้ไม่ควร
ออกกำลังกายอย่างคุ้มค่าด้วยการ แทนที่จะหยุดนิ่งไปเลย ก็ให้ชลอความเร็ว หรือวิ่งอยู่กับที่เบาๆ หรือเดินเร็วๆแทนดีกว่า แล้วเก็บการยืดเหยียดไว้ตอนจบการออกกำลังกาย
6. หยุดทันทีที่เหนื่อย
รู้มั้ยว่าคนเรามีความสามารถมากกว่าที่ตัวเราเองคิดซะอีก แต่ที่ไม่ค่อยเผยมันออกมาก็เพราะใจไม่แข็งแรงพอ เช่น วิ่งเร็วๆได้ยังไม่ถึง 1 นาทีเลย ก็หยุดเดินแล้ว
ออกกำลังกายอย่างคุ้มค่าด้วยการ ปล่อยแรงฮึด คิดซะว่าอีกนิดนึงน่า เรายังไหวๆ แบบนี้ก็อาจไปต่อได้อีก 1 -2 นาที หรือมากกว่าก็ได้นะ
7. มาช้าเลิกเร็ว
จริงมาออกกำลังกายก็ยังดีกว่าไม่มาล่ะนะ บางคนซื้อคอร์สออกกำลังกายอะไรซักอย่าง แต่เข้าคลาสก็สาย เลยไม่ได้วอร์มอัพเหมือนคนอื่นๆ พอตอนกลับก็กลับก่อน เลยไม่ได้คูลดาวน์อีก
ออกกำลังกายอย่างคุ้มค่าด้วยการ มาก่อนเวลา และกลับทีหลังคนอื่น อาจจะได้เทคนิคจากเพื่อนร่วมคลาส หรือเทรนเนอร์เพิ่มด้วยก็ได้นะ
8. ใช้สมองระหว่างออกกำลังกาย
การออกกำลังกายร่างกายต้องการน้ำตาลมากอยู่แล้ว ถ้าต้องใช้สมองอย่างการอ่านหนังสือ การฟังข่าว เรียนภาษา ระหว่างการออกกำลังกายอีก ก็ทำให้ไม่สามารถใช้แรงได้อย่างเต็มที่
ออกกำลังกายอย่างคุ้มค่าด้วยการ ไม่ใช้สมองคิดระหว่างนั้น วิธีที่ได้ผลดีที่สุดคือ ฟังเพลงมันส์ๆแบบต่อเนื่อง มันจะเค้นแรงของเราออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะสมองเราจะปลอดโปร่งที่สุด
9. ทำเพราะแค่อยากเท่ห์
บางคนมาฟิตเนสแค่เพราะจะได้ไปคุยกับเพื่อนได้ว่า “ตอนนี้กำลังอยู่ฟิตเนส” หรือทำให้รู้สึกว่าได้เข้าฟิตเนส แต่มาก็เดินเล่นไปมา ถ่ายรูป หยิบดัมเบลขึ้นมายก 2 ที หรือถือไว้เฉยๆ หรือวางไว้ข้างตัวเฉยไม่ได้ทำอะไร หรือมาแค่เดินบนลู่แบบช้าๆ ปั่นจักรยานแบบถอยหลัง ซึ่งมันไม่ได้ใช้แรงอะไรเลย
ออกกำลังกายอย่างคุ้มค่าด้วยการ ทำให้เต็มที่ เต็มกำลัง เต็มความสามารถ ทำให้ใช้เวลาได้น้อยกว่า และเผาผลาญได้มากกว่าอีกด้วย
10. ออกแรงเบาไป
หลายคนเชื่อว่าการออกกำลังกายเบาๆแต่นานๆ จะเป็นการเผาผลาญไขมันได้มากกว่า ซึ่งมันก็จริงที่ว่า
การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นต่ำๆ ร่างกายจะใช้พลังงานจากไขมันถึง 60% แต่การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูงๆ ร่างกายจะใช้พลังงานจากไขมันแค่ 35%เท่านั้น
แปลว่า ถ้าใช้เวลาเท่าๆกัน แล้วคนนึงออกกำลังกายเบาๆ เผาผลาญได้ทั้งหมด 100 แคลอรี่ (เป็นไขมัน60แคลอรี่) อีกคนนึงออกกำลังกายหนักๆ เผาผลาญได้ 200 แคลอรี่ (เป็นไขมัน 70 แคลอรี่)
ออกกำลังกายอย่างคุ้มค่าด้วยการ ออกแรงให้หนักขึ้น แต่อาจไม่ต้องหนักตลอดเวลา หรือทุกวันก็ได้ อาจจะออกหนักๆ1นาที สลับกลางๆ 3 นาที ฝึกแบบนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ส่วนวันอื่นๆก็ออกแบบที่เคยทำก็ได้ค่ะ
โดย ezygodiet.com