ออกกำลังกายแต่ไม่ผอม
การออกกำลังกายจริงๆแล้ว มีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างความแข็งแรง แต่ที่ทำให้หลายคนมีกำลังใจออกกำลังกายทุกวันนี้ ก็เพื่อลดน้ำหนักกันใช่มั้ย แต่เคยเจอปัญหานี้มั้ย ออกกำลังกายแต่ไม่ผอม ซักที รู้มั้ยว่าเพราะอะไร
.
1. ออกกำลังกายยังไม่หนักพอ
ตอนแรกๆแค่ออกกำลังกายนิดๆหน่อยๆ มันก็รู้สึกว่าเบาตัวแล้ว น้ำหนักลดแล้ว แต่พอเวลาผ่านไปหลายๆเดือน หรือเป็นปีๆ มันกลับเท่าเดิม ไม่เดินหน้าไปไหนเลย ทำไม ทำไม และทำไม???
.
ก็ก่อนหน้านั้นคุณไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนเลย การได้เริ่มออกกำลังกาย ก็ถือเป็นการออกมาจากโซนสบายใช่มั้ย ถึงจะออกกำลังกายแบบเหยาะแหยะๆ แต่มันก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงใช่มั้ย มันไม่สบายเหมือนเดิมใช่มั้ย มันเหนื่อย มันเมื่อยถูกมั้ย
.
แล้วทุกวันนี้คุณก็ยังออกกำลังกายแบบเหยาะแหยะๆเหมือนเดิมรึป่าว ถ้าใช่ มันก็ไม่แปลกหรอกที่จะยังไม่ผอมซักที ก็เพราะมันกลายเป็นโซนสบายของคุณไปแล้วไง คือมันไม่ท้าทายแล้ว มันไม่เหนื่อย ไม่เมื่อยแล้ว
.
วิธีแก้คือ คุณต้องออกมาจากโซนสบายให้ได้ เพิ่มเวลา เพิ่มความเข้มข้น เพิ่มความยากในการออกกำลังกาย ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็ลองเปลี่ยนกิจกรรมการออกกำลังกายเป็นอย่างอื่นดูบ้าง เปลี่ยนท่าบ้าง เปลี่ยนเครื่องเล่นบ้าง
.
ขี้เกียจออกกำลังกาย จะลดน้ำหนักได้มั้ย
.
.
2. ออกกำลังกายหนักเกินไป
อ้าว…เอ๊ะยังไงเนี่ยะ ออกกำลังกายหนักไปก็ไม่ได้หรอ ใช่แล้วล่ะ… ไม่เชื่อก็ลองเสียบชาร์จมือถือตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน แล้วเล่นเกมส์ไปด้วย คิดว่ามันจะเป็นยังไง เครื่องก็จะร้อนตลอดเวลา แบตก็จะเสื่อมเร็ว อาจระเบิดเอาด้วยก็ได้
.
คนเราก็เหมือนกัน ใช้กล้ามเนื้อทุกวัน ไม่เปิดโอกาสให้มันฟื้นฟูตัวเองเลย แทนที่จะได้กล้ามเนื้อฟิตๆ ก็กล้ายเป็นเนื้อเหลวๆแทน
.
สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณออกกำลังกายกายหนักเกินไป เช่น เพลีย หมดแรง ปวดหัว นอนไม่หลับ แต่ตาจะปิด และหิว
.
วิธีแก้คือ หยุดการออกกำลังกายไปก่อนซัก 3-5 วัน ให้ร่างกายฟื้นฟูก่อน นอนให้มาก ทานอาหารที่มีประโยชน์ที่สุด จากนั้นก็ค่อยๆกลับมาออกกำลังกาย แต่ลองจัดเวลาใหม่ให้สั้นลง เบาลง และอย่าลืมจัดวันหยุดพักสัปดาห์ละ 1-2 วัน ด้วยล่ะ
.
.
3. ไม่ยอมควบคุมอาหาร
การออกกำลังกายมันก็ดี แต่ถ้ายังกินเข้าไปมากกว่าเผาผลาญออกมา แล้วมันจะผอมได้ยังไงจริงมั้ิย แต่ถ้ากินน้อยไป มันก็ไม่มีแรงออกกำลังกายอีกเหมือนกันนะ
วิธีแก้คือ ต้องรู้ว่า ร่างกายใช้พลังงานวันละเท่าไหร่ แล้วจึงตั้งเป้าหมายแคลอรี่ให้ไม่เกินเท่านั้น หรือค่อยๆลดลงจนอยู่ในระดับที่เหมาะสม
.
.
4. มัวแต่คาร์ดิโออย่างเดียว
การออกกำลังกายหลักๆแล้วก็มี คาร์ดิโอ(เน้นหัวใจ) ฝึกความแข็งแกร่ง(เน้นกล้ามเนื้อ,กระดูก) ยืดหยุ่น(เน้นเอ็น)
.
ถ้าคุณทำแต่คาร์ดิโออย่างเดียว แล้วสัดส่วนไม่ค่อยเปลี่ยน กล้ามเนื้อไม่ฟิตกระชับ ถึงเวลาแล้วล่ะที่ต้องฝึกกล้ามเนื้อด้วย
.
วิธีการฝึกกล้ามเนื้อ เช่น บอดี้เวท อย่างพวก ท่า lung ท่าวิดพื้น ยกเวท ทำอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์
.
หรือไม่ก็ลองศึกษาวิธีออกกำลังกาย ที่ทั้งคาร์ดิโอไปด้วยฝึกกล้ามเนื้อไปด้วยพร้อมๆกันได้ อย่างเต้นแอโรบิคไปด้วยถือดัมเบลไปด้วย หรือฝึกท่าต่างๆโดยไม่ต้องหยุดพัก คือให้เหนื่อยและหนักไปพร้อมๆกัน หรือที่เขาเรียกว่า circuit training (ฝึกแบบครบวงจร)
.
5. ให้รางวัลตัวเองเป็นอาหารมากไป
กินของที่ชอบมันก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอก แต่คนส่วนใหญ่มักคิดว่า ออกกำลังกายแล้วก็กินเยอะๆได้ แต่การออกกำลังกายมันใช้เวลานานกว่าการเอาแคลอรี่เข้านะ
.
เช่น กินข้าวผัดกระเพราะครึ่งจาน 300 แคลอรี่ ก็ต้องวิ่งกันเป็นชั่วโมงเลยกว่าเผาผลาญหมด แล้วเราก็ไม่ได้กินครึ่งจานซะด้วย แถมยังมีเครื่องเคียงอื่นๆอีก
.
วิธีที่ถูกคือ ตรวจสอบแคลอรี่รวมทั้งวัน ไม่ให้เกินแคลอรี่เป้าหมาย และลองอ่านบทความนี้ดู หลังออกกำลังกาย กินได้มั้ย
.
.
6. เพิ่งจะออกกำลังกายหนักได้แค่ช่วงนึงเท่านั้น
บางคนนะบอกว่า เข้าฟิตเนสแทบทุกวันเลยช่วงนี้ อยู่ถึงดึกถึงดื่น แต่ยังไม่เห็นผอมซักที พอถามว่าทำมาได้นานแค่ไหนแล้ว คำตอบคือ ก็ซัก 2-3 สัปดาห์ หึมมม…ดีนะไม่ตอบ2-3วัน
.
อย่าคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงได้ภายในไม่กี่วันสิ ที่เราเห็นคนรูปร่างดีๆ เขาต้องใช้เวลาเป็นหลายๆเดือน หรือเป็นปีๆเลยนะ
.
วิธีแก้คือ ให้คิดว่าออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีไว้ก่อน ทำให้ติดเป็นนิสัย เป็นไลฟ์สไตล์ที่ดีของเรา แล้วค่อยๆฝังหัวว่า “ต้องทำไปตลอดชีวิต”
.
พอเราคิดแบบนี้แล้วก็จะรู้สึกว่า น้ำหนักจะลดหรือไม่ลด ยังไงฉันก็จะทำไปตลอดอยู่แล้ว
.
.
7. ไม่เห็นความสำคัญของการนอนหลับอย่างสนิท
การออกกำลังกายมันก็ดีนะ แต่ถ้าเกิดวันนั้นเป็นวันที่วิ่งวุ่นทั้งวันทั้งคืน ลูกร้อง นอนดึก เพลียมากๆ แล้วยังจะทู่ซี้ออกกำลังกายอีก
.
การนอนไม่พอจะส่งผลให้อยากอาหาร และน้ำหนักขึ้น พอเราเพลีย ไม่มีแรง การออกกำลังกายก็ด้อยประสิทธิภาพ
.
รู้หรือไม่ว่าการนอน เป็นส่วนหนึ่งของหลักการลดน้ำหนักด้วยนะ เพราะการนอนจะช่วยซ่อมแซม ฟื้นฟูร่างกายได้เร็ว
.
ลองสังเกตุว่ายิ่งออกกำลังกายมาก จะยิ่งทำนอนได้มากขึ้น จึงต้องจัดเวลาให้ดี สรุปคือนอนให้เพียงพอสำคัญกว่าการออกกำลังกาย
.
แต่ถ้าใครออกกำลังกายน้อยๆอยู่แล้ว ก็อย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างที่จะนอนนะ
.
ลองอ่านบทความนี้ดู 10 เหตุผลที่ต้องนอน มากๆ , นอนช่วยลดน้ำหนัก
.
.
8. นั่งทั้งวัน
ถึงคุณจะบอกว่าก็ออกกำลังกายแล้วนี่นา แต่ถ้าคุณนั่งติดเก้าอี้มันทั้งวัน ไม่มีกิจกรรมที่แอคทีฟอะไรเลย ก็ยากที่จะผอมได้นะ
.
ลองนึกดูนะ มันเหมือนเด็กที่พรุ่งนี้จะสอบแล้ว แต่เพิ่งมาเร่งอ่านหนังสือเอาคืนสุดท้ายคืนเดียว ต่อให้สอบได้ แต่ถามว่าความรู้หลังสอบเหลืออะไรบ้าง
.
เทียบกับอีกคนนึงที่อ่านทุกวันอยู่แล้ว ตอนครูสอนก็ตั้งใจเรียน เข้าใจเรื่องนั้นๆจริงๆ พอใกล้สอบก็แทบจะไม่ต้องเร่งอะไรเลย แถมยังนอนหลับสบาย ความรู้ก็ติดแน่นคงทนอีกด้วย
.
การออกกำลังกายก็เหมือนกัน เราลองหาโอกาสใช้พลังงาน เดินแทนที่จะนั่งมอร์เตอร์ไซค์ ใช้บันไดแทนที่จะใช้ลิฟท์ ยืนดูทีวีแทนที่จะนั่งดูทีวี ดูไอเดียที่ทำให้ชีวิต แอคทีฟ
.
ถ้าต้องทำงานนั่งเก้าอี้หน้าคอมทั้งวัน ก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้เลย ทุกๆต้นชั่วโมง ให้ลุกขึ้นมากระโดดตบ สควอท ยกแขนขา หมุนคอ ฯลฯ รับรองว่าคุณคิดไอเดียออกอยู่แล้ว 5นาที บริหารได้ในออฟฟิศ
.
.
เป็นไงคะ มีข้อไหนที่ตรงกับเราบ้าง อย่าลืมนำไปใช้นะคะ จะได้ไม่เจอปัญหา ออกกำลังกายแต่ไม่ผอม อีกค่ะ
เรียบเรียงโดย ezygodiet.com