ไอเดีย ลดแคลอรี่

แม้ว่าการเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่ด้วยการออกกำลังกาย เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดน้ำหนัก แต่ก็มีอีกวิธีหนึ่งที่ทำง่ายกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า นั่นก็คือการลดแคลอรี่จากอาหาร จริงๆแล้วมันก็ควรทำควบคู่กันไปนั่นแหละ หวังแต่จะออกกำลังกายแต่ไม่ยอมกินน้อยลงเลย ก็อาจจะลดน้ำหนักได้ยากกว่า  บทความนี้จึงได้รวบรวมไอเดีย ลดแคลอรี่ มาฝากกัน

 

1. แบ่ง

แทนที่จะกินหมดทีเดียวทั้งถุง  ก็แบ่งใส่ถุงซิปล็อค หรือใส่ภาชนะ แบ่งทานเป็นครั้งๆ หรือซื้อแบบห่อเล็กสุด หรือที่สามารถแยกห่อเป็นชิ้นๆเล็กๆได้ เช่น ขนม คุ้กกี้ ของจุบจิบทั้งหลาย

 

2. แพ็ค

จัดอาหารใส่กล่อง พกไปด้วยแบบปิ่นโตสุขภาพเลย กล่องควรเป็นแบบ Lock & Lock ใส่ผักลวก ผักสด มะเขือเทศ แตงกวา ผักสลัด ถั่วแขก ฯลฯ ซึ่งหาทานได้ยาก  เพราะเวลาไปทานข้าวนอกบ้าน ก็จะมีแต่แป้งกับเนื้อ แต่หาผักทานยากนัก ก็แพ็คไปเองซะเลย

 

3. ทานก่อนไป

ก่อนไปงานปาร์ตี้ นัดทานข้าวมื้อใหญ่ๆ หรือต้องเดินทาง อย่าหิ้วท้องไปทานทีเดียวล่ะ อย่าคิดว่าจะไปหาเอาดาบหน้า หาอะไรรองท้องก่อน เช่น นม ถั่ว เมล็ดทานตะวัน

 

4. ทานน้อยๆแต่บ่อยๆ

จัดเวลาทาน 5-6 มื้อต่อวัน ทานมื้อเล็กๆ  ทุกๆ 3 ชั่วโมง ทานอาหารเท่าฝ่ามือ ช่วยให้ไม่หิว น้ำตาลไม่เหวี่ยง วิธีนี้เหมาะกับคนที่เป็นโรคกระเพาะ หิวบ่อยๆ แต่ก็อาจไม่เหมาะกับคนที่เบรคไม่ค่อยอยู่ก็ได้นะ

 

5. เริ่มต้นด้วยซุป

น้ำต้มซุป น้ำแกงใสๆ น้ำต้มกระดูก ข้าวต้ม แกงจืด เป็นไอเดียที่ดีสำหรับคนที่ติดทานเยอะ ลองเปิดฉากการทานด้วยเมนูเหล่านี้ ก็ทำให้อิ่มไปครึ่งท้องแล้ว ทำให้ทานอย่างอื่นได้น้อยลงด้วย

 

6. ทานเงียบๆ

มีงานวิจัยที่บอกว่า การทานอาหารหน้าทีวี มักทำให้ทานเยอะขึ้น แถมยังต้องหาขนมจุบจิบมาทานเพิ่ม เพราะรายการที่ดูยังไม่จบด้วย  ฉะนั้นเวลาทานอาหารให้ปิดอุปกรณ์อย่างทีวี มือถือ คอมพิวเตอร์ รวมถึงการพูดคุยด้วย แล้วตั้งใจกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าดีกว่า

 

7. ดื่มน้ำเปล่า

การดื่มน้ำเปล่าครึ่งแก้วก่อนทานอาหาร ไม่ได้ทำให้เจือจางน้ำย่อยซักเท่าไหร่หรอก ก็เหมือนกับน้ำในน้ำแกงจืดนั่นแหละ เมื่อทานอาหารหมดจาน ก็ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว ทำให้ไม่เผลอทานแบบโอเว่อร์  และรู้สึกอิ่มได้ทันทีแน่นอน

 

8. เก็บไว้ได้

ทานไม่หมด เยอะเกินไป ก็ไม่ต้องกวาดให้เกลี้ยง  เสียดายของก็ใส่กล่องเก็บอาหารไว้ในตู้เย็น อีก3-4 ชั่วโมงก็เอามาอุ่นทานได้ ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอาหารเหลือไว้ในมื้อเดียวนี่

 

9.พ้นหูพ้นตา

สิ่งที่มองเห็นก็เป็นตัวกระตุ้นความอยาก ฉะนั้นเก็บมันไปให้พ้นหูพ้นตาซะ ใส่ตู้ให้มิดชิด  ใส่ขวดโหล ใส่ถุง ใส่กล่อง ให้แกะยากๆซักหน่อยก็ได้ อย่านำมาวางโชว์ยั่วน้ำลายบนโต๊ะเลย

 

10. ใช้จานเล็กๆ

ยิ่งจานใหญ่ ยิ่งมีเนื้อที่วางอาหารมาก  แถมยังดูน้อย ทำให้รู้สึกตอนตักว่ากลัวไม่อิ่ม เลยต้องตักให้เยอะขึ้น  แต่ถ้าใช้จานเล็กๆ จะดูว่ามีเยอะ เต็มจาน

 

11. เพิ่มถั่วในข้าว

ถั่วมีทั้งโปรตีน และไขมันดี ซึ่งทำให้อิ่มนาน รวมถึงคาร์โบไฮเดรท วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆด้วย  ถือว่าเป็นอาหารที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ในตัวเลย   ลองเพิ่มถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเหลือง ธัญพืชพวก ลูกเดือย ข้าวบาร์เล่ย์ ที่แช่เตรียมไว้ ลงในข้าวตอนหุง และลดปริมาณข้าวสารลง แต่ได้อิ่มกว่าเดิมแน่ๆ

 

12. ห่อกลับบ้าน

เคยสั่งอาหารมาเยอะเกินอิ่มมั้ย แล้วทำยังไง พยายามทานให้หมดเพราะเสียดายใช่มั้ย  อย่าทำแบบนั้น ให้ขอให้ทางร้านห่อที่เหลือใส่ถุงกลับบ้านให้หน่อย  อย่าไปอาย เพราะถ้าอ้วนแล้วน่าอายมากกว่านะ

 

13. อย่าดื่มแอลกอฮอล์

แหมจะมาห้ามเรื่องนี้มันก็ดูจะ บังคับจิตใจกันไปหน่อย  แต่มันมีส่วนอย่างมากเพราะแอลกอฮอล์ลงท้องเมื่อไหร่ ได้มีกับแกล้มตามเมื่อนั้น ยิ่งไม่ค่อยมีสติในการทานอยู่แล้วด้วย  และหลังการดื่มก็ต้องมีอาหารช่วยให้สร่างเมาอีกแน่ๆ

 

14. อย่าขยับกางเกง

ในเมื่อก่อนทาน เอวกางเกงกำลังพอดี ในเมื่อเราอิ่มแล้ว ท้องแน่นแล้ว ก็แสดงว่าร่างกายพอเพียงแล้ว ยังจะขยับเกางเกง ปลดเข็มขัด ให้มีที่ว่างใส่อาหารอีกงั้นหรอ

 

15. อย่าดื่มน้ำอัดลม

ไม่ว่าจะไร้แคลอรี่ หรือมีแคลอรี่ก็ตาม โซดาจะเป็นตัวทำให้เรารู้สึกอยากทานอาหารมากขึ้น มีงานวิจัยที่บอกว่าการดื่มน้ำอัดลมแม้จะศูนย์แคลอรี่ก็ตาม สามารถนำไปสู่โรคเบาหวานได้  ถ้ารู้สึกกระหายน้ำ จงเลือกน้ำเปล่าดีที่สุด หรือทานผลไม้น้ำเยอะๆดีกว่า ดับกระหายได้มากกว่าแน่นอน

 

อย่ามัวแต่อ่าน จงเริ่มทำ เริ่มเปลี่ยนแปลง สามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ นาทีนี้ ไปหยิบน้ำมาดื่มซะ แล้วเตรียมอาหารมื้อถัดไป  เพียงแค่นี้ก็ช่วย ลดแคลอรี่ จากอาหารได้แล้ว

กลับหน้าแกรก ezygodiet.com