40 พฤติกรรม ทำให้ป่วยและอ้วน
บทความนี้ได้รวบรวมนิสัยและพฤติกรรมที่ ทำให้ป่วยและอ้วน ที่คนสมัยนี้มักเป็นกัน ซึ่งทั้งจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรืออาจรู้ๆกันอยู่ แต่หลีกเลี่ยงลำบาก ลองมาดูกันว่ามีเรื่องไหนที่เราพอจะทำเพิ่มได้อีกบ้างนะคะ
1. ดื่มน้ำจากขวดพลาสติก
เพราะขวดพลาสติกที่ใส่น้ำ ใส่อาหารบางชนิด มีสาร BPA ซึ่งส่งผลร้ายหลายอย่างต่อร่างกาย เช่น เบาหวาน และ มะเร็ง
แต่จะเรียกโชคดีได้รึป่าวนะ เพราะเดี๋ยวนี้ในเมืองไทยใช้ขวด PET ซึ่งใช้สาร BPS แทน ที่เขาบอกว่าปลอดสาร BPA แต่ไม่ได้บอกนะว่ามีสารอื่นที่อันตรายแทนหรือเปล่า เพราะยังมีการถกเถียงกันอยู่
ทางที่ดีเราควรลดการใช้พลาสติกในการใส่น้ำ ใส่อาหาร และการโดนความร้อน ซึ่งเป็นหนทางที่ดูเหมือนจะยากจริงๆค่ะ
2. ไม่ยอมดื่มชาเขียว
ชาเขียว ถือว่าเป็นราชาชองชา ที่ทั้งช่วยชลอความแก่ ลดมะเร็ง และลดน้ำหนักได้ด้วยค่ะ
3. นอนไม่เพียงพอ
การฟื้นฟูร่างกายที่ดีและได้ผลที่สุดคือ การนอน อย่างน้อย 6-8 ชม.
4. หักดิบ
ชอบลดเร็วๆ อดอาหาร กินเท่าแมวดม ทั้งๆที่เมื่อวานเพิ่งจะกินบุฟเฟ่ต์อยู่เลย
5. ทำอาหารเองเลยกินมากขึ้น
บางทีเราก็นึกว่าทำกับข้าวกินเองแล้วจะดี มันก็ดีหรอกนะถ้ามันไม่เว่อร์ซะพูนจาน จัดเต็มเครื่องปรุงอ่ะนะ
6. ไม่ยอมตรวจภาวะขาดสารอาหาร
การตรวจให้รู้ว่าเราขาดสารอาหารชนิดไหน เช่น ขาดแคลเซียม ขาดวิตามิน แร่ธาติชนิดไหน ซึ่ง่ไม่ค่อยแพร่หลายในเมืองไทย ของเราส่วนใหญ่จะเป็นการตรวจภาวะที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น กระดูกพรุนไปแล้ว เบาหวานก็เริ่มเป็นแล้ว ซึ่งของแบบนี้มันเป็นแล้วมันเอากลับคืนไม่ได้ แค่ไม่ให้มันเป็นมากขึ้นแค่นั้น
7. ไม่รู้จักกินน้ำมันดีๆ
เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปลา น้ำมันมะกอก กินแต่ของทอดๆที่ใช้แต่น้ำมันพืชอื่นๆ เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง
8. ไม่รู้ว่าในกับข้าวใส่อะไรบ้าง
ใครจะไปเกาะครัวดูเขาทำล่ะว่าเขาใส่อะไรลงไปบ้าง อย่างผัดไทยจานเดียวเขาใส่น้ำมันถึง 1 ทัพพีเลยนะ นี่ยังไม่นับ เกลือ ผงชูรส น้ำปลา น้ำตาล ฯลฯ อีก
9. ไม่รู้ว่ามีเกลือ
บางอย่างรู้สึกว่ามันหวาน แต่จริงๆก็มีเกลือเยอะ และหลายอย่างที่รสชาติกลมกล่อม อร่อย นั่นก็แสดงว่าเกลือเยอะเช่นกัน
10. ติดน้ำอัดลม
น้ำอัดลมที่หวานๆเราคงรู้ๆกันอยู่ว่าไม่ดียังไง แต่ถ้าไม่หวานล่ะ ได้มั้ย ไม่หวานก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีน้ำตาล แต่มันเป็นสารแทนน้ำตาล ที่มีผลต่อต่อมไทรอยด์ ตับ และระดับน้ำตาลในเลือดนะ
11. กลัวคาร์บ และไขมันเกินไป
พวกอาหารโลว์แฟต เขาก็เอาคาร์บมาเติม อาหารโลว์คาร์บก็เอาไขมันมาเติม มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรนักหรอก ทางที่ดีคือ กินอะไรที่มันเป็นธรรมชาติน่ะดีที่สุด
12. ไม่กินออร์แกนิก
อันนี้ก็ยากค่ะ แต่ก็พอได้ เพราะอาหารทุกวันนี้ฉีดทั้งสารฆ่าแมลง ค่าหญ้า เร่งโต ซึ่งเป็นสารพิษสะสม ถ้าไม่ซื้อฉลากที่เขียนว่าออร์แกนิก ก็คงต้องปลูกเองล่ะค่ะ
13. กินเร็วเกินไป
ก็ชีวิตมันเร่งรีบ แต่กระเพาะเรามันความรู้สึกช้าค่ะ กว่าจะรับรู้ก็ต้อง 30 นาทีไปแล้ว ถ้าเรากินเร็ว ยัดๆเข้าไป สมองยังไม่อิ่ม แต่ท้องป่องแล้วค่ะ
14. ไม่เตรียมของกินเล่น
เตรียมของกินเล่นไว้สิคะ อยากปุ๊บ หยิบปั๊บ ไม่โหย เช่นถั่วแอลมอนด์ ถั่วลิสง กล้วย ส้ม ผลไม้ โยเกิร์ต ฯลฯ ไว้กินรองท้อง เอาแบบไม่ปรุง ไม่ทอดนะ
15. ติดเก้าอี้
เห็นที่นั่ง ที่นอนไม่ได้ ต้องปรี่เข้าใส่ บริเวณนั้นแหล่ะแรงดึงดูดสูงสุดในจักรวาลเลยค่ะ
16. กินโปรตีนไม่พอ
ตุนโปรตีนให้มาก อย่างกไม่เข้าเรื่อง ลดค่าขนมหวานๆ เปลี่ยนเป็นไข่ นม ปลา โปรตีนต่างๆ
17. วิ่งแต่ไม่ยกเวท
วิ่งช่วยเผาผลาญพลังงานลดน้ำหนักก็จริง แต่การฝึกกล้ามเนื้อ จะทำให้ไม่อ้วนง่ายนะคะ
18. กินแคลอรี่แต่ไม่อิ่ม
กินอะไรที่มันอิ่ม ดีกว่ากินอะไรที่มีแคลอรี่น้อยๆ แต่ไม่อิ่มเลย เช่น นม กับ น้ำผลไม้
19. ช่างเสียดาย ต้องกวาดให้เกลี้ยง
มีเท่าไหร่กินให้หมด อย่าให้เสียของ ไม่จำเป็นนะคะ สมัยนี้มีตู้เย็น มีกล่องเก็บอาหาร เหลือเก็บกลับบ้าน เข้าตู้เย็นได้นะ
20. ไม่คลายเส้น
ทำงานนี่คะ มันก็เมื่อยทุกคนแหละค่ะ วิธีง่ายๆคือ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ คลายเส้น มันทำให้เราแอคทีฟขึ้น ทำให้อยากทำอะไรได้อีกเยอะ
21. กินไม่เป็นเวลา
เช้าไม่หิว ก็ต้องกิน อย่ากินแค่กาแฟแก้วเดียว ถึงเวลาพักเที่ยงก็ต้องพัก จัดเวลาของว่างรองท้อง เว้นช่วงอาหารให้พอเหมาะ
22. เคร่งกับการลดน้ำหนักเกินไป
จริงจัง ไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียด ลดน้ำหนักแบบค่อยๆปรับเปลี่ยน ตามสถานการณ์ ถ้ารู้สึกเครียดก็พักก่อน กินของชอบได้ทุกวัน แต่อย่าเว่อร์
23. นึกว่าแซลมอนดี
แซลมอนสมัยนี้เลี้ยงด้วยกากถั่วเหลืองทั้งนั้น ทำให้ไขมันปลาเป็นโอเมก้า6 ซึ่งที่เราต้องการคือโอเมก้า3 ต่างหาก ในขณะที่แซลมอนธรรมชาติมีโอเมก้า3 เยอะกว่านั่นเอง
24. ชอบตุนขนม
จะลดความอ้วน จะรักษาสุขภาพ แต่พอเปิดตู้ออกมาเจอแต่ขนม ของหวาน น้ำตาลใกล้มด มีหรือคะจะไม่กิน
25. กินแต่แป้งขัดสี
คนเราก็ต้องกินแป้งนะคะ แต่ไหนๆจะกินแล้วก็พ่วงไฟเบอร์ไปด้วยสิคะ จะได้ช่วยชลอการดูดซึมน้ำตาล เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืช
26. แก้เครียดด้วยการกิน
ยอมเลยค่ะ การกินมันแก้เครียดได้จริงๆ งั้นเราเตรียมของแก้เครียดดีๆไว้เลยดีมั้ย เช่น ผลไม้หั่นแล้ว หยิบกินง่าย โปรตีนเชค โปรตีนบาร์ โยเกิร์ต ถั่ว
27. ติดหวาน
ผลไม้ก็หวานนะ แต่มันก็ยังดีกว่าขนมหวานจริงมั้ยคะ อินทผาลัมก็หวาน แต่ก็เป็นความหวานจากธรรมชาติ ดีกว่าครีม น้ำตาลในกาแฟนะ
28. ค้นตู้เย็นตอนดึก
ดึกแล้วยังหิว ก็แสดงว่าตอนเย็นกินไม่อิ่ม กินน้อยไป หรือไม่ก็นอนดึกไปนั่นเองค่ะ
29. ไม่ใส่ใจเรื่องสารอาหาร
สารอาหารคือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรท ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุ แต่ที่เรามักขาดก็คือ วิตามิน กับแร่ธาตุค่ะ งั้นก็ไปหาเติมกันนะคะ
30. หลงของฟรี
พวกซอส น้ำจิ้ม เครื่องปรุง ก็เค้าให้เติมฟรีนี่ ใส่เยอะๆจะได้คุ้มๆ แบบนี้ไม่คุ้มแน่ค่ะ เดี๋ยวก็ต้องไปเสียค่าหมออยู่ดี
31. ดูทีวี ดูมือถือมากไป
ติดเกมส์ ติดดู ตาเราดูแต่ขากับก้นเรามันก็ดันนิ่งตามไปด้วยน่ะสิ เสียเวลาเปล่าๆค่ะ
32. ชอบสั่งไซส์ใหญ่ๆ
ก็มันหิว ชุดใหญ่คุ้มกว่า จริงเลย แต่รู้มั้ยคะว่ากระเพาะเรามันยืดได้หลายเท่านะ ใหญ่แค่ไหนก็สะท้าน
33. ติดงาน
ทำงานดึก นอนดึก เดี๋ยวก็ต้องกินดึก แล้วเราก็มักกินมากกว่าที่ใช้ด้วยสิ
34. ติดนั่ง
นั่งได้ค่ะ แต่อย่าลืมลุกขึ้นมาเดินทุกๆครึ่งชั่วโมง หรือทุกๆ1ชั่วโมงก็ยังดี
35. ทำงานไปกินไป
ทำงานเพลิน ก็กินเพลิน แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นขนมกรุบกรอบ หยิบง่าย อร่อย อ้วนเพลินกันเลย
36. ดื่มกาแฟมากไป
จริงๆกาแฟก็ไม่ได้เลวร้ายนะ แต่จะมีซักกี่คนที่กินแต่กาแฟขมๆ ไม่ใส่ครึม ไม่ใส่น้ำตาล ่บางคนบอกว่า เค้ากินกาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล แต่ข้างๆน่ะ คุ้กกี้ไม่ใช่เหรอนั่น
37. เครียดไป ไม่ยอมปล่อยวาง
เคยพูดแบบนี้มั้ย “วันนี้เครียด ไม่ออกกำลังการแระ” วันนี้งานยุ่ง เหนื่อย” จริงๆเราเหนื่อยใจมากกว่าค่ะ ออกกำลังกายคลายเครียดได้ดีเลยแหล่ะ
38. ติดอาหารแปรรูป
กุนเชียง ไส้กรอก แหนม ลูกชิ้น เส้นก๋วยเตี๋ยว ของดอง สมัยนี้แทบจะทุกอย่าง ล้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน และมะเร็งทั้งสิ้น
39. ชอบเปิดไฟนอน
กลัวผีอ่ะ! เชื่อมั้ยคะว่าแสงไฟเป็นตัวกระตุ้นให้ลึกๆแล้วเรายังตื่นอยู่ นอนมืดๆ จะทำให้หลับลึกกว่า ฟื้นฟูดีกว่า
40. เล่นมือถือ ดูทีวีตอนจะนอน
แบบนี้ทำให้ความคิดค้างค่ะ เช่นดูวิดีโอจบ นอนเลยเราก็อาจฝันเรื่องที่เพิ่งดูจบ หลับไม่สนิท หรือการมีอุปกรณ์อิเล็คโทรนิกส์ใกล้ๆตอนนอนก็ไปรบกวนสมาธิเราได้ค่ะ