8 วิธีแก้อาการงัวเงีย
เริ่มต้นวันใหม่แบบกระฉับกระเฉง สุขภาพดี หุ่นดี ใครที่กำลังลดน้ำหนักก็สามารถนำ วิธีแก้อาการงัวเงีย นี้ไปใช้ได้เลย
1. ดื่มน้ำเปล่าแก้วใหญ่ๆ
ตื่นนอนปุ๊บให้เดินไปเทน้ำใส่แก้ว แล้วกระดกดื่มให้หมดทันที ดื่มน้ำก่อนที่จะแปรงฟัน ก่อนดื่มกาแฟ ก่อนเข้าห้องน้ำ ก่อนทุกอย่าง
แม้ว่าเราจะนอนอยู่ แต่ร่างกายก็ยังทำงาน ในเมื่อมันทำงานให้เรามาทั้งคืน เราควรเติมน้ำให้เค้าบ้างหลังจากที่ขาดน้ำมาทั้งคืนจริงมั้ย?
หลังจากดื่มน้ำ (น้ำเปล่านะ) จะรู้สึกได้ถึงความกระฉับกระเฉง
2. ออกกำลังกายตอนเช้า
บางงานวิจัยบอกว่าการออกกำลังกายตอนเช้าก่อนมื้อเช้า จะช่วยไล่ไขมันได้อย่างรวดเร็ว (แต่บางที่ก็บอกว่าถ้าไม่กินอะไรก่อนออกกำลังกายก็อาจทำให้ออกกำลังกายได้แป๊บเดียวเพราะหมดแรง)
การออกกำลังกายหลังตื่นนอน จะช่วยกระตุ้นสมอง ไล่ความงัวเงียได้อย่างดี แต่ควรมีการฝึกกล้ามเนื้อร่วมกับการคาร์ดิโอด้วย
3. กินโปรตีนในตอนเช้า
การกินอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูงจะทำให้อยู่ท้องมากกว่า ไม่ไปโหยหิว หาขนมกินตอนสายๆ แล้วก็ไม่ทำให้กินมื้อกลางวันเยอะเกินไปด้วย
4. ตื่นตัวเสมอ
การนั่งๆนอนๆ จะพาอารมณ์ให้งัวเงีย อยากนอน ลองบังคับตัวเองทุกครั้งที่รู้สึกงัวเงียให้ลุกขึ้นมาเดิน กระโดด มองต้นไม้ มองสิ่งต่างๆภายนอก หรือถ้ากลัวลืมก็ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ซะเลย ทุกๆต้นชั่วโมง พอนาฬิกาดังปุ๊บ ก็ลุกขึ้นมาทำอะไรซักอย่างทันที
5. วางแผนอาหาร
บอกเลยว่าคนที่จะมีสุขภาพที่ดี และคนที่กำลังลดน้ำหนัก ต้องวางแผนอาหาร ต้องเข้าครัว ต้องลงมือทำเอง แม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องทำทุกมื้อ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้เลยที่จะไม่ทำ
ถ้าเราไม่วางแผนอาหาร พวกขนม ของว่างอ้วนๆ อาหารขยะก็จะเข้ามาทันที เพราะมันสะดวกรวดเร็วและอร่อย ดังนั้นอย่าลืมเตรียมว่าในมื้อถัดๆไปจะกินอะไร ถ้าหิวจะกินอะไร แพ็คใส่กล่องเก็บไว้ให้หยิบง่ายๆด้วย
6. พักสายตา
ถ้ามันเป็นความเพลียจริงๆ ไม่ใช่ความขี้เกียจแล้วล่ะก็ การนอนพักซัก 10 นาที ก็เป็นการชาร์จแบตร่างกายได้ดีพอควร อาจจะฟุ้บลงบนโต๊ะ หรือเอนนอนบนโซฟา ก็ทำให้เป็นการบู๊ทสมองได้อีกทางหนึ่ง
7. จัดตารางออกกำลังกายหลังเลิกงาน
แน่นอนว่าหลังเลิกงาน อาจมีความเมื่อยล้า เพลีย เหนื่อย แต่เชื่อสิว่าการออกกำลังกายนี่แหละเป็นวิธีแก้เมื่อยที่ดีที่สุด ดีกว่าการไปนวดซะอีกนะ
การได้หายใจเข้าได้เต็มปอดจากการหอบระหว่างออกกำลังกาย มันทำให้เราหายเหนื่อยจากการทำงานเป็นปลิดทิ้ง
แต่ควรกินของว่างซัก 125-250 แคลอรี่ และพักซัก 1-1.5 ชม. ก่อนเริ่มออกกำลังกายเพื่อเรียกแรง
8. นอนให้มากกว่าเดิม
ในเมื่อเราต้องการตื่นมาอย่างสดชื่น เราต้องออกกำลังกายทั้งเช้า และเย็น เราก็ต้องมีการพักผ่อนที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน เข้านอนให้เร็วขึ้น ไม่ใช่ตื่นให้สายขึ้น นอนให้มากกว่า 8 ชั่วโมง ถ้าให้ดีควรเป็น 10 ชั่วโมง